ล่องเรือสำราญเที่ยวเมืองเก่าทาลลินน์ เมืองหลวงประเทศเอสโตเนีย
ล่องเรือสำราญเที่ยวเมืองเก่าทาลลินน์ เมืองหลวงประเทศเอสโตเนีย
Tallinn ทาลลินน์ เมืองหลวงของประเทศเอสโตเนีย หนึ่งในประเทศในกลุ่มบอลติก ยุโรปเหนือ ชื่อเมืองหลวงของประเทศนี้ช่างเป็นชื่อที่ไพเราะและน่าหลงใหล ดินแดนแห่งนี้ได้เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์ที่ทรงคุณค่า และมีสถาปัตยกรรมที่สวยสดงดงาม นักท่องเที่ยวต่างพากันไปเที่ยวชมความสวยงามดื่มด่ำกับบรรยากาศเหมือนดั่งต้องมนต์ โดยเฉพาะ Old town square ย่านจัตุรัสเมืองเก่าทาลลินน์
นอกจาก Tallinn ทาลลินน์ ประเทศเอสโตเนีย เป็นเมืองขึ้นชื่อเรื่องความสวยงาม สถาปัตยกรรม เราเคยได้อ่านข้อมูลจากเว็บไซต์ intelligentcommunity.org เรื่อง Tallin, Esonia Named 2020 Intelligent Community of the Year โดย Matthew Owen โดยเมืองทาลลินน์ได้รับรางวัลชุมชนอัจฉริยะ ประจำปี 2020 อีกด้วย
ประเทศเอสโตเนีย ถือเป็นประเทศที่น่าสนใจทางประวัติศาสตร์อีกประเทศหนึ่ง ณ ที่นี่เราคงไม่สามารถเล่าเรื่องได้ละเอียดนะคะ เพื่อน ๆ สามารถเข้าไปอ่านเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ Thairath.co.th เรื่อง ประวัติศาสตร์เอสโตเนียซ้ำรอย โดย นิติการุณย์ มิ่งรุจิราลัย
เพราะรักข้ามขอบฟ้า ถึงเวลาแล้วต้องเดินทางตรงดิ่งไปประเทศสวีเดน เมื่อปี 2015 แผนการท่องเที่ยวจึงก่อตัวกำเนิดขึ้นเราสองคนได้เดินทางไปเที่ยวสต็อกโฮล์ม และแฟนก็เซอร์ไพรส์ซื้อตั๋วล่องเรือสำราญจากสต็อกโฮล์ม - ทาลลินส์ จำนวน 1 คืน 2 วัน ส่วนเรานั้นก็ต้องเก็บอาการสิคะคุณขา เก็บอาการอย่าแสดงออกให้ผู้เห็นว่าเราบ้านนอก แต่ก็บ้านนอกจริง ๆ เพราะเกิดมาเราก็ไม่เคยขึ้นเรือสำราญมาก่อนในชีวิต อยากจะกรี๊ดเหลือเกินแต่ก็นะ อย่าพึ่งให้เขาเห็นธาตุแท้เราดีกว่าแอ๊บ ๆ ไว้ก่อน อิอิ
การเดินทางของเราเริ่มต้นจากขับรถไปจอดสถานที่ใกล้ ๆ กับท่าเทียบเรือสำราญ ระหว่างทางที่เดินเราก็เห็นเรือสำราญใกล้เข้ามาทุกที ๆ เรานี่อยากจะเหาะไปเลยทีเดียว รู้สึกตื่นเต้นมาก ๆ นี่คือการขึ้นเรือสำราญครั้งแรกของเราที่ต่างประเทศของฉันหรือเนี่ย เรือดูลำใหญ่จริง ๆ และคิดอยู่ในใจ เฮ้ย ฉันว่ายน้ำไม่เป็นนี่หว่า ถ้าเรือคว่ำ อย่างเรือไททานิค ฉันคงตายแน่ ๆ คิดไปก็กลืนน้ำลายเอือกใหญ่เชียว แต่เอาวะ คนเราเกิดมาต้องตาย ถ้าจะตายก็ขอตายในอ้อมกอดคนรักก็พอใจแล้ว ฮ่า ๆ
เมื่อนอนบนเรือหนึ่งคืนตื่นมาก็ตื่นตาตื่นใจกับท่าเทียบเรือและความสวยงามของเมืองทาลลินน์ อยากจะขี่ไม้กวาดให้ไปถึงที่ไว ๆ เหลือเกิน บรรยากาศ ณ วันนั้นก็เป็นใจมาก ๆ มีแดดออกมาต้อนรับให้เรารู้สึกอบอุ่นไม่ร้อนมากเกินไปร้อนแบบพอดี ๆ เราสูดหายใจบริสุทธิ์เข้าไปเต็มปอด สายตาก็พลางมองท้องฟ้าข้างบน ที่มีสีฟ้าสดใสตัดกับเมฆสีขาว ช่างเป็นภาพที่น่าประทับใจมาก แอบคิดในใจว่าเจ้าของเมืองนี้คงยินดีต้อนรับคนต่างถิ่นแบบเราได้อย่างน่าอบอุ่นมาก
ตอนที่อยู่บนเรือเรามองออกไปด้านนอกก็เห็นเรือสำราญหลากหลายสี เรือยอร์ช และเรือธรรมดาอีกหลาย ๆ ลำที่จอดนิ่งอยู่ที่ท่าเทียบเรือ รอคอยเจ้าของที่จะแล่นไปตามแม่น้ำ เราก็พาลคิดแทนเรือว่า “เธอคงจะมีความสุขมากใช่ไหม เพราะเธอช่างสวยงาม และยังได้ล่องไปตามแม่น้ำที่เย็นชื่นใจ พร้อมเจ้าของที่ดูแลรักษาเธอเป็นอย่างดี เพราะเรือทุกลำดูใหม่ สะอาดตา แลสวยงาม”
|
ภาพผู้เขียนถ่ายเอง
หลังจากที่เราลงจากเรือแล้วเราก็เดินปรี่ด้วยความไวเลยค่ะ เพราะว่าเรามีเวลาจำกัด เลยต้องใช้เวลาเก็บเกี่ยวความสวยงาม และเดินเก็บทุกที่ให้ได้มากที่สุด
พอเดินเข้ามาในเมืองเก่าแล้วโอ้ แม่เจ้าสมกับเป็นเมืองเก่า Old town จริง ๆ เพราะได้กลิ่นไอของความเก่าแก่ สภาพของอาคารและตึกที่สร้างด้วยหินขนาดใหญ่ซ้อนกัน ประกอบกับสนามหญ้าสีเขียว ๆ ข้าง ๆ ก็ยิ่งรู้สึกหลงเสน่ห์ตั้งแต่เดินเข้าในเมืองกันเลยทีเดียว และที่สำคัญที่สุดเราขอแนะนำเลยค่ะ ให้เพื่อน ๆ หาแผนที่ของตัวเมืองแล้วดูว่าเราอยู่จุดไหนของสถานที่ เราจะได้เดินให้ทั่วค่ะ เพราะตอนนั้นที่เราไป เราเดินมั่ว ๆ ค่ะ แล้วก็ถึงบางอ้อตอนดูแผนที่ค่ะ ฮ่า ๆ โก๊ะกันไปอีก อิอิ
ภาพผู้เขียนถ่ายเอง |
ภาพผู้เขียนถ่ายเอง : |
ภาพผู้เขียนถ่ายเอง : |
เราเดินกันมาสักพักไม่กี่นาที ก็เข้าสู่ประตูทางเข้าที่ยิ่งใหญ่สวยงามที่ชื่อว่า ประตู Viru ที่ถูกสร้างขึ้นในศตวรรษที่ 13 อันดันแรกเลยเราไปถ่ายรูปกับชุดประจำชาติเขาก่อนค่ะ ตอนแรกแฟนเราจะไม่ถ่ายแต่เราก็บังคับค่ะ ฮ่า ๆ ผู้ชายไม่ค่อยถูกจริตกับกล้องจึงต้องโดนบังคับขู่เข็น บอกว่าขอเก็บภาพไว้เป็นความทรงจำหน่อย ไม่รู้บ้านไหนเป็นบ้างผู้ชายไม่ถูกจริตกับกล้องสักเท่าไหร่ จะถ่ายทีไรก็บ่นอยู่นั่นแหละ แต่เราน่ะหรือก็พยายามตื้อถ่ายต่อไป อย่าได้แคร์ค่ะ อ่อ สำหรับภาพถ่ายเขาก็จะจัดส่งให้เราดูทางเมล์ว่าจะเอาอันไหนบ้าง แล้วเราก็แจ้งเขาไปว่าต้องการอันไหน เขาก็จะทำการจัดส่งเมล์ให้เราค่ะ ลืมราคาว่าเท่าไหร่ต้องขอโทษเพื่อน ๆ ด้วยนะคะ
ภาพผู้เขียนถ่ายเอง |
หลังจากถ่ายภาพคู่เหมือนจะเป็นพรีเวดดิ้งเสร็จแล้ว ซึ่งถ่ายไปก็ขำไปเกิดมาก็ไม่เคยถ่ายภาพคอสตูมแบบนี้มาก่อน อิอิ ถ่ายเสร็จเราก็เดินแบบเดินทนค่ะ เดินเร่ง ๆ เพื่อจะได้เดินให้รอบและทั่วถึงทุกที่ และถ่ายภาพแบบรัว ๆ ตอนนั้นก็ยังไม่ได้สนใจเรื่องถ่ายภาพสักเท่าไหร่คิดแต่ว่าถ่ายไว้เก็บเป็นความทรงจำ ไม่รู้จักมุมกล้อง ไม่รู้จักมุมแสง นึกอยากถ่ายก็ถ่ายไปตามอารมณ์ของฉันนี่แหละ
สำหรับนักท่องเที่ยวที่มาก็มีทุกเชื้อชาติเดินกันไปมามากมาย แต่ที่เจอบ่อยก็คงไม่พ้นพี่จีนค่ะ มีทุกที่อิอิ แค่เห็นหน้าและฟังภาษาก็ชี้เป้าได้เลยนี่คือพี่จีนส่งเสียงอึกทึกครึกโครมกันแบบสนุกสนานกันเลย
สถานที่เด่นอีกจุดคือโบสถ์เซนต์โอลาฟทาลลินน์ ซึ่งสามารถเข้าไปชมบรรยากาศในโบสถ์ด้านในได้ นอกจากนั้นเรายังสามารถเดินขึ้นไปชมวิวของเมืองทาลลินน์ได้อีกด้วย แต่ขอเตือนก่อนว่าบรรไดที่ขึ้นไปช่างชันเหลือเกิน เราเดินแทบจะขาดใจเพราะบันไดทั้งชัน และแคบ รู้สึกหายใจไม่สะดวกและเหนื่อยแต่ด้วยความที่ เอาวะ ไหน ๆ มาแล้วต้องขึ้นไปให้ถึงจุดหมายให้ได้ พอไปถึงด้านบนจุดชมวิวโอ้วววว กรี๊ดมากทำไมสวยขนาดนี้ เบื้องหน้าคือตึกรามบ้านช่องของเมืองหลวงที่มีสีสันสดใส ท้องฟ้าก็สีสดใสตัดกับสีหลังคามาก ๆ อยากจะยืนดูนาน ๆ แต่ก็ต้องรีบอีกแล้วค่ะทุกคน เพราะเวลาจำกัดนั่นเอง ต้องเดินไปที่อื่นอีก
ผู้เขียนถ่ายเอง |
ภาพผู้เขียนถ่ายเอง |
ภาพผู้เขียนถ่ายเอง |
ภาพผู้เขียนถ่ายเอง |
หลังจากขึ้นไปชมวิวเสร็จเรียบร้อยเราก็เดินเก็บบรรยากาศไปเรื่อย ๆ สองข้างทางก็จะเป็นตึกเก่า ๆ ที่ยังคงสภาพที่สวยงามบางตึกก็ทาสีให้มีสีสรรบ้าง บางตึกก็ยังคงสภาพเดิม ระหว่างทางก็จะมีพวกนักศิลปะจำหน่ายภาพข้าง ๆ ทาง และวาดภาพเหมือนให้แก่นักท่องเที่ยว เดินไปเดินมาเหนื่อยก็นั่งพักจิบชากัน แต่ก็อย่างว่าแหละ รีบกันค่ะจิบแป๊บเดียวก็เดินกันต่อค่ะ
เมื่อเราเดินกันจนเมื่อยและหมดพลังกันแล้ว เราก็ไปนั่งกินข้าวกันที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง เราสองคนสั่งสลัดกันมากิน และที่ขาดไม่ได้คือเครื่องดื่มขึ้นชื่อของที่นี่ นั่นก็คือเบียร์อบเชย ปกติเราเป็นคนที่ไม่ชอบดื่มเบียร์เพราะมันขม ฮ่าๆ แต่เพื่อนชาวฟินแลนด์ได้แนะนำว่าเบียร์อบเชยที่เมืองทาลลินน์อร่อยมากพวกเธอต้องลองกันนะ ดังนั้นพวกเราจึงสั่งมาดื่มกัน ปรากฏว่ามันอร่อยและหอมมาก ๆ นึกแล้วก็อยากไปอีกเลย
ในขณะท่ีทานอาหารก็จะมีนักแสดงที่แสดงเรื่องราวอะไรสักอย่าง ซึ่งเราก็ไม่เข้าใจแต่เดาว่าคงแสดงเรื่องราวของเมืองแน่ ๆ มีการขับร้องกันอย่างไพเราะ มีการแต่งกายแบบสมัยเก่า แม้แต่พนักงานเสิร์ฟและคนที่ทำงานในร้านอาหารก็ใส่ชุดสมัยเก่ากัน ให้ความรู้สึกเหมือนย้อนยุคไปในเมืองเก่าจริง ๆ เลย
ภาพผู้เขียนถ่ายเอง |
ภาพผู้เขียนถ่ายเอง |
จตุรัสทาลลินน์ Tallinn Town hall square จุดศูนย์กลางของเมืองเก่าทาลลินน์ |
รถม้า ไม่ใช่รถฟักทองนะจ๊ะ ใครอยากได้บรรยากาศนั่งรถม้ารอบเมืองก็จัดไปค่ะมีบริการรถม้าด้วยค่ะ |
ข้อมูลประวัติศาสตร์ของเมืองทาลลินน์ |
บริเวณถนนภายในเมืองทาลลินน์ |
ร้านขายของข้างทาง |
ตึกหัวมุมถนนทาสีซะสวยหวานเลย |
วิวในเมืองทาลลินน์ |
อันนี้ไม่รู้ข้างบนหมายความว่าอย่างไรเห็นแปลก ๆ เลยถ่ายเก็บไว้ค่ะ |
ใกล้ทางเข้าด้านซ้ายก็จะเป็นร้านถ่ายรูปชุดประจำชาติค่ะ |
รถไฟในเมือง |
หอคอยบริเวณ town hall square |
บรรยากาศในเมืองอีกด้าน |
ความสวยงามของตึกที่ทาลลินน์ |
Tallinn เมืองทาลลินน์ เป็นเมืองที่มีเอกลักษณ์เป็นของตัวเองถ้าได้ไปเห็นกับตาแล้วจะหลงรักเลยค่ะ แต่วันนี้เราเลยอยากให้เพื่อน ๆ ได้ชมกับตาเลยแนะนำคลิปยูทูบจากช่อง Around the World 4K ซึ่งช่องนี้ก็ได้เปิดเมื่อ 27 มิ.ย. 2014 มีผู้ติดตาม 460,000 คน ยอดวิว 60,011,267 ครั้ง
สำหรับทริปนี้เป็นทริปที่น่าประทับใจอีกทริปหนึ่งเพราะได้ล่องเรือสำราญพร้อมกับได้ชมเมืองประวัติศาสตร์ที่เคยเป็นหนึ่งในสหภาพโซเวียต และยังเป็นเมืองที่มีความเจริญก้าวหน้าทางด้านเทคโนโลยีอีกด้วย
ทริปนี้ถือเป็นทริปพิสูจน์รักมากเพราะเดินทนจริง ๆ แล้วไหนจะปีนขึ้นบันไดที่ชันและแคบ เพื่อไปสู่จุดชมวิว เดินไปเจ็บเท้าไป เหนื่อยสุดๆ แต่คุ้มค่ามากมาย และที่สำคัญเป็นทริปล่องเรือสำราญที่ต่างประเทศครั้งแรกด้วย เสียดายที่หารูปบนเรือไม่เจอค่ะ สงสัยจะอยู่กับมือถือเครื่องเก่าที่นอนตายไปนานแล้วฮ่าๆ
การเดินทางด้วยเรือสำราญจากสต็อกโฮล์ม - ทาลลินน์
การเดินทางด้วยเครื่องบิน
ที่พัก
Writer
ผู้เขียน
ณัญพร ดอเนียลซัน
🇹🇭 สาวไทยแต่งงานใช้ชีวิตอยู่สวีเดน 🇸🇪
ปัจจุบันแม่ลูกหนึ่ง
ชอบทำอาหาร ทำขนม ท่องเที่ยว
สนใจด้านการถ่ายภาพ ถ่ายคลิป
รับเขียนบทความต่าง ๆ
รับเขียนบทความรีวิว
รับรีวิวสินค้า
น่าไปจังค่ะ
ตอบลบ